เก็บตกสองสัปดาห์ในสังคมสูงวัยญี่ปุ่น

มาสอนหนังสือที่ญี่ปุ่นปีนี้ อากาศที่โตเกียวหนาวขึ้น อุณหภูมิตอนเช้า 4-6 องศา จากนั้นอุ่นขึ้นเป็น 10-11 องศาในช่วงเที่ยง แต่แดดออกทั้งวันทุกวัน ไม่มีฝน ท้องฟ้าสวยสดใส เป็นปีที่อากาศดีมากๆ ปีหนึ่งในช่วงสิบปีที่ผมมาสอน โรงแรมที่พักอยู่ในกรุงโตเกียวเขตแฮนโซมอน ใกล้พระราชวังอิมพีเรียล ตอนเช้าผมจะเดินจากโรงแรมไปมหาวิทยาลัย ซึ่งอยู่ห่างไป 1.2 กิโลเมตร เดินทุกวัน เลียบเขตพระราชวังทางทิศเหนือ ขึ้นเขาลงเขาตามถนนประมาณ 30 นาที เป็นโอกาสได้ทดสอบสุขภาพและพลังขาตัวเองและสูดอากาศหนาวๆ เข้าปอดทุกวัน

ผมสอนหลักสูตรนโยบายสาธารณะเอเชีย เป็นหลักสูตรปริญญาโทภาษาอังกฤษ นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นข้าราชการจากหน่วยงานเศรษฐกิจของประเทศในเอเชีย วิชาที่สอนคือเศรษฐกิจโลกและความท้าทายต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ มุ่งไปที่ประสบการณ์ของประเทศในเอเชีย ปีนี้มีนักศึกษามาจาก อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย ไต้หวัน กัมพูชา เวียดนาม มองโกเลีย อุซเบกิสถาน และญี่ปุ่น เป็นชั้นเรียนที่ตั้งใจ คึกคัก และพร้อมแสดงความคิดเห็น ทําให้ไม่น่าเบื่อ 

เท่าที่สอนมาผมสังเกตว่า นักศึกษาที่มาจากประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตดี การเมืองมีเสถียรภาพ ประชาชนมีความหวัง จะมีความมั่นใจและพร้อมซักถามและตอบคำถาม ซึ่งปีนี้ที่เด่นคืออินโดนีเซีย ชี้ว่า ความสำเร็จของประเทศมีผลถึงความมั่นใจหรือใจที่ฟูของประชาชน

ช่วงที่สอนเป็นช่วงที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจกําลังจะประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 23-24 มกราคม ซึ่งตลาดคาดว่าบีโอเจคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะอัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นได้เพิ่มสูงเกินเป้าที่ร้อยละ 2 อยู่ที่ร้อยละ 3.6 เดือนธันวาคม และร้อยละ 2.9 เดือนพฤศจิกายน หมวดที่ราคาเพิ่มมากคืออาหาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 เดือนธันวาคม รองผู้ว่าการ บีโอเจก็ส่งสัญญาณว่าคณะกรรมการจะหารือเรื่องดอกเบี้ยในวันประชุม ยิ่งตอกย้ำโอกาสที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นักวิชาการญี่ปุ่นที่ผมพูดคุยด้วยก็มั่นใจว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบช็อกตลาดในวันเข้ารับตําแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งก็ไม่มีอะไร บีโอเจจึงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 0.50 สูงสุดในรอบ 17 ปี

ในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่น ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นคนปัจจุบัน นายคาซูโอะ อุเอดะ อดีตศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว ได้รับการยอมรับมากเพราะเป็นผู้นำเศรษฐกิจญี่ปุ่นออกจากอัตราดอกเบี้ยติดลบและภาวะเงินฝืดกลับสู่ภาวะปกติของอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เป็นบวก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้เติบโตต่อไป

ในตอนเเรก ผมห่วงว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของบีโอเจจะทําให้ตลาดการเงินโลกปั่นป่วน เพราะต้นทุนที่สูงขึ้นของธุรกรรม carry trade ที่กู้เงินเยนมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ที่จะปิด Position หรือธุรกรรมกันวุ่นวายเพื่อลดการขาดทุน เงินกู้ยืมประเภทนี้ประเมินว่ามีมากกว่า 350 พันล้านดอลลาร์ แต่ตลาดก็ปรับตัวต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี 

อีกประเด็นที่ห่วงคือ ผลต่อการชําระหนี้ของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเพราะดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เช็คล่าสุด หนี้สาธารณะญี่ปุ่นอยู่ที่ 217% ของจีดีพี ลดลงจากสูงสุดที่ 225.8% เมื่อปี 2564 ขณะที่งบชําระหนี้ของญี่ปุ่นในงบประมาณประจำปียังต่ำกว่างบใช้จ่ายของรัฐบาลในด้านสังคมสงเคราะห์มาก สะท้อนถึงภาระต่อฐานะการคลังของประเทศที่มากับสังคมสูงวัย

ปีนี้ช่วงวันหยุดผมกับภรรยาจะเป็นสายวัด เราไปทั่วเพื่อเยี่ยมชมและไหว้พระขอพรวัดที่เป็นที่เคารพสักการะของคนญี่ปุ่นทั้งในและนอกกรุงโตเกียว เช่น วัดเซนโซจิ ที่โตเกียว วัดคิตะอินที่เมืองคาวาโกเอะ วัดชุเซ็นจิ ที่ Izu วัดโคโตคุอินหรือวัดพระใหญ่ เมืองคามาคุระ และวัดรินโนจิที่เมืองนิกโก 

การออกไปนอกกรุงโตเกียวทําให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตและสังคมสูงวัยญี่ปุ่นนอกกรุงโตเกียว ซึ่งชัดเจนว่านักท่องเที่ยวมีมากขึ้น ราคาสินค้าและค่าครองชีพสําหรับคนญี่ปุ่นสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาอาหาร กระทบความเป็นอยู่ของคนสูงวัย ทําให้คนสูงวัยญี่ปุ่นจะประหยัดมาก มีการศึกษาว่างบใช้จ่ายที่เพียงพอสำหรับคนสูงวัยญี่ปุ่นควรอยู่ที่หนึ่งหมื่นดอลลาร์ต่อปี แต่ปัจจุบันเงินช่วยเหลือคนสูงวัยจากรัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ที่หกพันดอลลาร์ต่อปี ซึ่งห่างกันมาก ทำให้ความยากจนในกลุ่มประชากรสูงวัยญี่ปุ่นจึงสูง ประมาณ 20% ของคนสูงวัย 

ซํ้าเติมด้วยความเหงาของคนสูงวัยเมื่อต้องอยู่คนเดียวในที่สุด เป็นปัญหาและความท้าทายในแง่นโยบายที่ทางการญี่ปุ่นพยายามแก้ ให้คนสูงวัยมีอะไรทํา เพื่อให้มีรายได้ มีสังคม และไม่เหงา เราจึงเห็นคนสูงวัยในญี่ปุ่นยังมีที่ทำงานอยู่ เช่น ในสวนสาธารณะ อาคารพาณิชย์ ในซูเปอร์มาเก็ต หรือแม้แต่ขับแท็กซี่

แต่ที่สะท้อนความเข้มแข็งของสังคมญี่ปุ่น คือคนสูงวัยญี่ปุ่นจะพยายามทําอะไรด้วยตัวเอง ไม่เป็นภาระให้ใคร ไปไหนมาไหนด้วยตัวเองหรือเป็นคู่ แต่งตัวดี และที่น่าประทับใจและสังเกตได้ง่ายคืออัธยาศัยไมตรีที่ดีที่มีต่อกันของคนสูงวัยในญี่ปุ่นทั้งระหว่างคนสูงวัยด้วยกัน ต่อคนแปลกหน้าหรือนักท่องเที่ยว และความเคารพที่คนรุ่นอายุน้อยกว่ามีต่อคนสูงวัยในญี่ปุ่น สิ่งเหล่านี้ต้องชื่นชม

ผมได้คุยกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นทั้งอดีตข้าราชการและภาคธุรกิจ ซึ่งเห็นเหมือนกันว่า สังคมสูงวัยเป็นความท้าทายทั้งในระดับสังคมและครอบครัว ที่ลูกหลานไปทํางานที่อื่น พ่อแม่อยู่กันสองคนและถึงวันทั้งคู่ก็จากไป ไม่มีใครดูแลบ้านที่ว่างเพราะเป็นภาระ ทําให้สังคมญี่ปุ่นโดยเฉพาะในชนบทนับวันจะเล็กลงเพราะไม่มีคนอยู่ นี่คือสิ่งที่ญี่ปุ่นกําลังประสบ เป็นอุทาหรณ์ให้เราต้องเตรียมตัวและเตรียมใจ

2025-02-03T01:01:26Z