‘แม็กซีน-นิปปอน’ แชร์ทริค ‘กินคลีน’ ให้ถูกต้อง ในงาน SX2024 เล่าประสบการณ์ กินผักเยอะเสี่ยงโรค?
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม องค์กรธุรกิจ 5 องค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนระดับโลก ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งเครือข่าย TSCN (Thailand Supply Chain Network) และพันธมิตรหลากหลายภาคส่วน ร่วมจัดงาน Sustainability Expo 2024 (SX 2024) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
โดยบรรยากาศเวลา 13.00 น. เริ่มเวทีเสวนา หัวข้อ “กินแบบกรีนกรีน สูตรลับสุขภาพดีที่โลกต้องการ” โดย แม็กซีน อินทิพร แต้มสุขิน คอนเทนต์ครีเอเตอร์ จากช่อง maxdicine และ นิปปอน นวนันท์ บำรุงพฤกษ์ ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรช่อง One31 และ Gmm25
นวนันท์ กล่าวว่า การกินคลีนเริ่มมาจากการที่อยากหุ่นดี จึงทำการค้นคว้าหาข้อมูล และพบกับสูตรอาหารคลีนมากมาย จนนำวิธีเหล่านั้นมาทดลอง สุดท้ายแล้วการกินคลีนหรือการกินแบบกรีนกรีน สำหรับตนคือการหาสิ่งที่เหมาะสมกับตนเองเพื่อไม่ให้ร่างกายเครียดจนเกินไป ถ้าหากเราเข้มงวดมากเกินพอดี อาจจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ท้ายที่สุดแล้วนิยามของคำว่ากินคลีนคือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ที่ส่งผลดีทั้งต่อร่างกายและจิตใจ
ขณะที่อินทิพร เผยประสบการณ์ส่วนตัวของตนเองว่า เมื่อ 6 ปีก่อน เราทานแต่ของนึ่ง ผักนึ่งและกินอาหารเดิมซ้ำๆ ตอนนั้นเข้มงวดมากห้ามทานน้ำตาลและไขมัน พฤติกรรมการกินแบบนี้ทำให้ร่างกายของเราเครียดจนทำให้ไม่สบาย ณ ขณะนั้นเราคิดว่าเราทานอะไรที่มันดีต่อสุขภาพแบบสุดๆ แต่เราไปตรวจสุขภาพกลับพบว่าร่างกายของเราเป็นเหมือนคนอายุ 80 ปี ซึ่งแทบจะฟื้นฟูตัวเองไม่ได้เลย โรคภัยก็ตามมา ประจำเดือนมาเดือนละครั้ง เป็นลมพิษ โรคสะเก็ดเงิน โรคนอนไม่หลับ สุดท้ายแล้วนิยามของคำว่ากินคลีนหรือกินกรีน คือ หาความสมดุลให้กับตนเอง เพราะไม่มีสิ่งใดที่เหมาะกับทุกคน เราต้องฟังร่างกายของเราว่าอะไรดีที่สุด ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร คำว่าคลีนต้องดูว่าลำไส้เราดีหรือไม่ ขับถ่ายดีหรือเปล่า ผิวของเราเป็นอย่างไรช่วงนี้มีสิวขึ้นไหม สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าเราต้องปรับร่างกายให้สมดุล
ด้าน นวนันท์ เสริมว่า เราไม่รู้ว่าอะไรจะมีประโยชน์กับเราที่สุด สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สูตรสำเร็จ สิ่งที่สำคัญคือเราต้องปรับใช้เพื่อให้เหมาะกับร่างกายของแต่ละคน พร้อมกับแชร์ประสบการณ์ของตนเองว่า
“เราเป็นคนที่ไม่เคยรักษาสุขภาพเลย ทำงาน 7 วัน ไม่เว้นเสาร์- อาทิตย์ ซึ่งเราทำไปเรื่อยๆ เหนื่อย กลับบ้าน นอน จนวันหนึ่งเราไม่สบายไปหาหมอแล้วช็อกมาก เพราะว่าเรากำลังจะเป็นโรคร้าย ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเริ่มเปลี่ยนตัวเอง ช่วงนั้นก็หาข้อมูลเยอะมาก จนกระทั่งไปพบหมอในระหว่างการรักษา นำข้อมูลที่ได้ไปรึกษาหมอ ซึ่งตอนนั้นหมอก็ว่า คุณต้องรู้จักคำว่า ‘Too much information’ การที่ไปหาข้อมูล และเสพข่าวเยอะจะสร้างความเครียดให้กับร่างกาย หมอจึงแนะนำว่าให้ทิ้งความกังวลแล้วยึดไว้แค่เรื่องพื้นฐาน คือ กินให้ได้ นอนให้หลับ ขยับบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งสำหรับเรามันยากมาก เพราะการที่จะนอนหลับแล้วตื่นมาสดใส หรือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่นั้น เราไม่สามารถทำได้ทุกวัน แต่เราสามาถสร้างความสมดุลให้กับตัวเองได้ วันไหนทำได้ก็ทำ วันไหนทำไม่ได้ไม่เป็นไร เพราะถ้าเข้มงวดจนเกินไปจะทำให้เครียด” นวนันท์กล่าว
ด้าน อินทิพร เสริมว่า นอกจากอาหารแล้วสภาพจิตใจก็สำคัญ เพราะหลายคนอาจจะมองข้ามเรื่อง ‘ขยะอารมณ์’ ในวันหนึ่งเราเจออะไรมาเยอะมาก และไม่ได้ปลดปล่อยมันออกไป สิ่งเหล่านั้นที่อัดอั้นรวมกันจะทำให้เราเก็บกด สะสมมาเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นขยะอารมณ์
นอกจากเราจะคลีนเรื่องอาหารแล้ว อยากให้นึกถึงการคลีนจิตใจด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเขียนระบาย ออกกำลังกาย แม้กระทั้งการหายใจก็ช่วยได้ ใช้เวลาแค่ 3 นาทีตอนตื่นมา และก่อนนอน หายใจเข้ายาว และหายใจออกยาว นี่คือการดีท็อกซ์ร่างกายอย่างง่ายได้ดีมาก ๆ ในทุกวัน ซึ่งทำแล้วจะรู้สึกสบายขึ้นเยอะมาก
ในส่วนปัจจุบันหลายคนเข้าใจเรื่องการกินคลีนว่าคือการกินผัก งดเนื้อสัตว์ และแป้ง กับเรื่องนี้ อินทิพร แสดงความคิดเห็นว่า การที่เราเข้มงวดกับเรื่องนี้มากจะทำให้ร่างกายเราเครียดมากเกินไป เราต้องรู้จักการให้อภัยร่างกายตัวเอง หากสามวันที่ผ่านมาไม่ได้ออกกำลังกาย และกินอาหารแย่ ก็แค่ใช้เวลาสักวัน คืนสิ่งดีๆ ให้กับร่างกาย เดินทางไปกินอาหารดีๆ ออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีความยืดหยุ่นและลดความเครียดให้กับร่างกาย
ขณะที่ นวนันท์ แชร์เทคนิคการเลือกผักในการนำมารับประทานสำหรับมือใหม่ที่เริ่มการกินคลีนว่า ให้ใช้วิธีลองอย่างละนิดละหน่อย เปิดใจและให้โอกาสตัวเองในการลองอะไรใหม่ ๆ และค่อย ๆ ปรับให้ตรงกับความชอบของเรา
ด้าน อินทิพร เสริมว่า หลายคนเวลาพูดถึงผักจะมีความรู้สึกไม่ชอบ ซึ่งไอเดียการลองสิ่งใหม่ ๆ ก็เหมือนการท้าทายตัวเองในสิ่งที่ไม่ถนัด จนกลายเป็นเรื่องสนุก และอยากทำต่อไปเรื่อย ๆ
“เราเป็นคนที่รอบบ้านปลูกผักสวนครัว จะมีเมนูที่ชอบมาก เพื่อนชอบมาก คือเราจะเด็ดผักรอบบ้าน ซึ่งผักบางชนิดเติบโตเองตามธรรมชาติ และมีวัชพืชบางชนิดที่กินได้ เช่น กระสัง เป็นวัชพืชที่โตบนดินที่สมบูรณ์ คล้ายตำลึงที่โตขึ้นมาเองรอบบ้าน โดยเราก็จะนำมาทำสลัดแบบไทย เพิ่มความแซ่บด้วยการใส่น้ำพริก หากชอบโปรตีนก็ใส่ธัญพืชหรือเนื้อสัตว์เพิ่มเข้าไป และใส่ไข่ผำด้วย ที่เราแนะนำเมนูนี้เพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่าผักทุกอย่างรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นการไปซื้อที่ตลาด ซุปเปอร์มาเก็ต หรือรอบบ้านก็ให้ประโยชน์กับร่างกายเราได้เช่นกัน” อินทิพรกล่าว
สำหรับเด็กเล็กที่มักกินผักยาก นวนันท์ ระบุว่า วิธีที่ดีคือ จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กดู การที่เราไปบังคับให้เด็กกินผัก แต่เรากลับไม่กินให้เห็น เด็กก็คงไม่กิน ใด ๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต หรือการกินผัก การเลือกของเราจะส่งผลต่อเด็กเสมอ ดังนั้นการเป็นตัวอย่างที่ดีคือสิ่งสำคัญเพื่อให้เด็กได้เดินตาม
ขณะที่ อินทิพร กล่าวว่า นอกจากการเป็นตัวอย่างที่ดีแล้ว วิธีที่จะทำให้เด็กกินผักคือกระบวนการทำอาหาร เพราะมีผักหลายชนิดที่เด็กไม่ค่อยชอบ ซึ่งเราก็จะใช้วิธีหลอกล่อด้วยการนำผักมาผสมในอาหาร เช่น ซุป เพื่อไม่ให้เด็กเห็นผักชนิดนั้น ๆ หรือการทำให้ผักมีหน้าตาน่ารัก น่ารับประทานก็ช่วยได้เช่นกัน
เมื่อถามถึงคำแนะนำสำหรับใครที่ใช้ชีวิตเร่งด่วน แต่ยังอยากกินคลีนแบบสุขภาพดี นวนันท์ กล่าวว่า มีเมนูหนึ่งที่รับประทานทุกเช้า คือ overnight oatmeal คือ ข้าวโอ๊ต ที่สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป และเทนมรสชาติที่ชื่นชอบ ผสมกับเมล็ดเจีย และเพิ่มเติมสิ่งที่เราชอบลงไป เช่น กล้วย โยเกิร์ต เสร็จแล้วแช่ตู้เย็นทิ้งไว้หนึ่งคืน ตื่นเช้ามาเขย่าเล็กน้อยและรับประทานได้เลย รสชาติดี มีประโยชน์ ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร อีกทั้งยังประหยัดเวลาอีกด้วย
ขณะที่ อินทิพร ระบุว่า ตนจะเลือกทานของสดเป็นส่วนใหญ่ โดยการเตรียมก่อนล่วงหน้า ซึ่งจะทำเป็น Meal Prep ไว้ ส่วนใหญ่ถ้ารีบในตอนเช้าไม่มีเวลาอุ่นจะทานของสด หรือ Prep เมนูผักปั่นไว้ทานตอนเช้า และเราจะไม่ชอบทานตอนรีบเพราะกระเพาะของเราเครียดอยู่ เราจะเห็นเลยว่าเวลาทานตอนเครียดระบบย่อยอาหารจะไม่ค่อยดี ขับถ่ายไม่ดี ซึ่งเราจะข้ามไปทานอีกทีตอนเที่ยงเลยที่เราสามารถหาอาหารที่เราต้องการและทานได้อย่างสบายใจ
“เราเคยทำ Water Fasting หรือ การลดน้ำหนักที่ใช้หลักการอดอาหารในระยะเวลาติดต่อกัน 24-72 ชั่วโมง โดยระหว่างนั้นจะดื่มน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว ติดต่อกัน 7 วัน ที่ทำเพราะเราเป็นคนชอบทดลองกับตัวเอง ซึ่งรู้สึกสดชื่น อาจจะมีวันท้าย ๆ ที่หน้ามืดเพราะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำมาก 2-3 วันแรกก็มีเล่นโยคะ ต่อยมวยได้ปกติ แต่สิ่งที่ได้จากการทำ Water Fasting คือตับเราได้พัก เพราะเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายเรา โดยตับก็จะสะอาดมากเนื่องจากไม่ได้ทำการย่อยอาหารใด ๆ” อินทพรกล่าว
พร้อมกับแนะนำว่า หากใครไม่เคยทำ Fasting หรือ การอดอาหารเป็นช่วง ไม่แนะนำให้ให้ทำ Water Fasting หลายวันแบบที่ตนทำ ซึ่งตนนั้นทำวิธีนี้โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยกำกับดูแล หากใครอยากลองให้เริ่มจาก 16 ชั่วโมง หรือ 20 ชั่วโมง แค่นี้ร่างกายก็ได้ประโยชน์มาก ๆ แล้ว แต่อย่างไรก็ตามต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญ
ในส่วนของการทำ IF วิธียอดนิยมสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก อินทิพร แนะนำว่า หากเป็นไปได้สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น คือทำสูตร 16/8 หรือ กิน 8 ชั่วโมง และพัก 16 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามคนที่เป็นโรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มทำ
ด้าน นวนันท์ กล่าวว่า ตนไม่เคยทำ Fasting มาก่อน แต่จะสังเกตตนเองจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ว่าตอนนี้รูปร่างเป็นอย่างไร ประกอบกับวิธี benefit of walking หรือ การเดิน
“เราตื่นเช้า และไปเดินโดยไม่ต้องทานอะไร ไม่ต้องวิ่ง เดินเพื่อให้เหงื่อออก สิ่งที่ได้จากการทำคือ ความสนุก และจิตใจที่ดีขึ้น พูดแล้วเหมือนเป็นเรื่องที่ธรรมดา ซึ่งเราก็ได้มีการนำวิธีนี้ไปแชร์ให้พี่สาวฟัง เขาก็ไปเดินเหมือนกัน สำหรับเขาแล้วสิ่งที่ได้มาคือ โรคภูมิแพ้ที่เขาเป็นอยู่นั้นดีขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วลองสังเกตตัวเอง อย่าเพิ่งไปทำอะไรที่มันสุดโต่งมาก ๆ หากได้ผลดีกับเราก็ค่อยทำมันอย่างต่อเนื่อง” นวนันท์กล่าว
ขณะที่ อินทิพร เล่าประสบการณ์ของตนเองเมื่อครั้งป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินว่า ตนป่วยเป็นโรคดังกล่าว 2 ปี ซึ่งทรมานมาก หลังจากที่ตนกล้าออกมาพูดว่าป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน ก็พบว่ามีคนป่วยเป็นโรคดังกล่าวเยอะมาก ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากความเครียด สภาวะอารมณ์ และการใช้ชีวิต
หากปกติเราเป็นคนที่กินอาหารที่มีน้ำตาลเยอะจะส่งผลให้ลำไส้ไม่แข็งแรง จนเกิดเป็นภาวะลำไส้รั่ว และนำไปสู่การเป็นโรคผิวหนัง
“ความเครียดเป็นบ่อเกิดของหลายโรค 90% ของโรคผิวหนังเกิดจากสภาวะที่ตับร้อน และมีเลือดเสีย ซึ่งสิ่งนี้เกิดจากที่ลำไส้เราไม่แข็งแรง จนเกิดเป็นโรคผิวหนังได้” อินทิพรกล่าว
เมื่อถามถึงการกินคลีนจะช่วยให้โลกยั่งยืนได้อย่างไร กับเรื่องนี้ นวนันท์ กล่าวว่า
“อยากฝากไว้อย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราอาจมองข้ามไป และลืมนึกถึง นั่นก็คือการที่เราทานอาหารบนกล่องโฟมจนชิน ทำให้ลืมเรื่องภาชนะ อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ถ้าหากเราปรับเปลี่ยนนิสัยให้เคยชินได้ เช่น ใช้กล่องข้าวที่ล้างเก็บได้ มันก็จะช่วยเรื่องของความยั่งยืนได้เช่นกัน ไม่ใช่แค่รักษ์โลก แต่รักตัวเราด้วย สิ่งเหล่านี้ช่วยได้มากจริง ๆ” นวนันท์กล่าว
ขณะที่ อินทิพร เสริมว่า “อยากจะฝากเรื่องของการดูต้นทางการผลิตผลิตภัณฑ์ บางครั้งเราจะเลี่ยงซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีเคมีเพื่อให้กระทบกับโลกน้อยที่สุด อีกหนึ่งสิ่ง คือการรับรู้ เพราะเมื่อไรที่เรามีการรับรู้ในการดูแลรักษาโลกใบนี้ เราก็จะมีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งทุกอย่างมาแต่พอดี และทานให้หมดจาน หรือ จัดการเศษอาหารที่เราเหลือทิ้งอย่างไร โดยทั้งหมดคือสิ่งเล็ก ๆ ที่เราค่อย ๆ ปรับ เมื่อทุกคนช่วยกันทำมันก็จะกลายเป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่มาก”
นอกจากนี้ อินทิพร กล่าวต่อไปว่า “จะเห็นว่าโลกของเราตอนนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอย่างรุนแรงและสาหัสมาก จากการที่น้ำท่วมหนักทางภาคเหนือ ไม่ใช่แค่ประเทศไทยแต่ทั่วโลกเลย ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ทุกคนต้องปฏิรูปมันได้แล้ว และช่วยกันปรับทีละนอดทีละหน่อยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน” อินทิพรกล่าว
ทั้งนี้ นวนันท์ กล่าวทิ้งทายว่า “อยากให้ทุกคนดื่มน้ำบ่อย ๆ ซึ่งจะช่วยด้านสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของเรา ส่วนเรื่องอาหารเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเพิ่มความเครียดให้กับร่างกายของเรา อะไรที่ผ่อนได้ก็ผ่อน หรืออะไรที่ที่เราพอทำได้ก็ทำเพื่อให้เกิดความสมดุล สุดท้ายแล้วทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เรามีความสุขในทุกวัน เติมเต็มสิ่งดี ๆ อาหารดี ๆ และเรื่องราวดี ๆ ให้กับตนเอง เพื่อให้มีความสุขแบบยั่งยืน” นวนันท์กล่าว
ด้าน อินทิพร กล่าวว่า “จริง ๆ แล้วไม่มีสูตรอะไรที่ดีที่สุดในการที่จะสุขภาพดี และแข็งแรง เราต้องฟังร่างกายของตัวเองและค่อย ๆ ปรับ เราควรผ่อนผันและหยวนให้ร่างกายบ้าง เรารู้สึกว่านี่จะเป็นวิธีทีทำให้เรามีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน นอกจากฟังร่างกายแล้วก็อยากให้ฟังโลกด้วย เพราะตอนนี้โลกกำลังร้องไห้อยู่ อยากจะฝากพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันที่จะช่วยรักษาโลกของเรา” อินทิพรกล่าวทิ้งท้าย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘แม็กซีน-นิปปอน’ แชร์ทริค ‘กินคลีน’ ให้ถูกต้อง ในงาน SX2024 เผยกินผักเยอะเสี่ยงโรค?
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th
2024-10-01T11:25:26Z dg43tfdfdgfd